รธป.สุรชาติ ร่วมคณะรมช.อิทธิ เป็นประธานการประชุม “ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและผู้ผลิตทุเรียนภาคตะวันออก ฤดูกาลผลิตปี 2568” จ.จันทบุรี
13 มี.ค. 2568 103
วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.00 น. นายสุรชาติ มาลาศรี รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านปฏิบัติการ ร่วมการประชุม “ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและผู้ผลิตทุเรียนภาคตะวันออก ฤดูกาลผลิตปี 2568” โดยมีนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบายการส่งออกผลไม้ แก่ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ภาคตะวันออกฤดูกาลผลิตปี 2568 นายวิสุทธิ์ ประกอบความดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายรพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร ผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจน ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุผลไม้ทั้งเปลือก (ทุเรียนและมังคุด) ในพื้นที่ภาคตะวันออก และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 500 คน ณ โรงแรม นิว แทรเวิลลอด์จ อ.เมือง จ.จันทบุรี
รมช.อิทธิ กล่าวว่า ศาสตราจารย์ ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายในการกำกับดูแลผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ปราศจากศัตรูพืชกักกัน เพื่อลดปัญหาการแจ้งเตือนจากประเทศปลายทาง ซึ่งขณะนี้ปัญหาการปนเปื้อน Basic Yellow 2 (BY2) และสารแคดเมียมในทุเรียนสดส่งออกไปจีน นับว่ามีผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกผลไม้ของไทย ทางการจีนจึงเพิ่มความเข้มงวดและออกกฎระเบียบในการควบคุมการนำเข้า การจำหน่าย ผลไม้นำเข้าจากประเทศไทย ซึ่งหากมีการตรวจพบการปนเปื้อน BY2 และสารแคดเมียมในผลทุเรียนสด และถูกระงับการนำเข้า จะส่งผลต่อเศรษฐกิจการส่งออกผลไม้ของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบและมีภารกิจในการกำกับดูแลการตรวจติดตามโรงงานผลิตสินค้าพืชให้ได้มาตรฐาน เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพผลผลิต และรับรองสุขอนามัยพืช ให้เป็นไปตามเงื่อนไขในพิธีสารส่งออกไปจีนอย่างเข้มงวด เพื่อให้การบริหารจัดการผลไม้ ตลอดห่วงโซ่การผลิตจนถึงกระบวนการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย
“กระทรวงเกษตรฯ เน้นย้ำในเรื่องของการปฏิบัติตามมาตรการ 4 ไม่ เพื่อควบคุมคุณภาพทุเรียนไทย ปี 2568 ได้แก่ 1. ไม่อ่อน 2.ไม่หนอน 3.ไม่สวมสิทธิ์ และ 4.ไม่มีสี-ไม่มีสารเคมีต้องห้าม โดยมีเป้าหมาย “Set Zero” การใช้สี การใช้สารเคมีในโรงคัดบรรจุทั้งหมด” รวมถึงมาตรการ Big Cleaning เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสารตกค้าง BY2 ซึ่งนับเป็นประเด็นปัญหาที่สำคัญอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเรื่องคุณภาพและมาตรฐานกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรในโรงคัดบรรจุ การกำกับดูแลผลไม้ให้เป็นไปตามมาตรฐาน จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุและโรงรวบรวมผลไม้ปฏิบัติได้ตามมาตรฐานและตามประกาศหลักเกณฑ์ที่กำหนด และมีการบูรณาการและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ผลไม้ที่ส่งออกไปก็จะมีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ส่งเสริมภาพลักษณ์ สร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้ผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ การส่งออกผลไม้ของไทยก็จะราบรื่น เกษตรกรสามารถจำหน่ายผลไม้ได้ราคาดี ช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกผลไม้ของไทย และสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และเกษตรกรได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป” รมช.อิทธิ กล่าว
ทั้งนี้ การจัดประชุมในครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านการส่งออกผลไม้
ปัญหาผลผลิตด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด รวมถึงปัญหาด้านกักกันพืชที่ไม่เป็นไปตามพิธีสาร
การตรวจพบศัตรูพืชทั้งโรค แมลง
และการตรวจพบสารตกค้างในผลผลิตที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก
เพื่อลดการแจ้งเตือนการปฏิเสธและตีกลับสินค้าจากประเทศผู้นำเข้าผลไม้จากประเทศไทย
อีกทั้ง เพื่อให้การเผยแพร่ข้อเท็จจริงในสื่อต่าง ๆ
และการรับรู้ข่าวสารเป็นไปอย่างถูกต้อง
โดยการชี้แจงให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุได้รับทราบและเข้าใจในหลักเกณฑ์
กฎระเบียบและขั้นตอนการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขปัญหา ตรวจติดตาม
เฝ้าระวัง และควบคุมการส่งออกผลไม้ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
รวมถึงเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้เข้ามามีส่วนร่วมในการระดมความคิดเห็นและหารือข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาช่วยให้การส่งออกผลไม้ภาคตะวันออกปี
2568 เป็นไปด้วยความราบรื่นและมีประสิทธิภาพ
และมีความมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการโรงคัดบรรจุได้มีความเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนต่างๆ
ในการส่งออกผลไม้ สามารถบริหารจัดการโรงคัดบรรจุได้ตามมาตรฐาน มกษ.9047-2560 รวมถึงประกาศและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เนื้อหาข่าว: กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน รูปภาพ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, สถานีพัฒนาที่ดินจันทบุรี, สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 2 กรมพัฒนาที่ดิน














