ข่าวผู้บริหาร


รองสุรชาติ ร่วมคณะ รมช.อิทธิ ติดตามการบริหารจัดการน้ำเขื่อนปัตตานี มุ่งเพิ่มศักยภาพการระบายน้ำ แก้ปัญหาน้ำท่วม


16 ก.พ. 2568    92   

           

           วันอาทิตย์ ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2568 นายสุรชาติ มาลาศรี รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดินด้านปฏิบัติการ พร้อมด้วยนางสายใจ มณีรัตน์ รักษาการผู้เชี่ยวชาญด้านวางระบบการพัฒนาที่ดิน สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 ร่วมคณะนายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการส่งน้ำและบํารุงรักษาปัตตานี โดยมี นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายภูผา ลิกค์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ โครงการส่งน้ำเเละบำรุงรักษาปัตตานี ต.ตาแซะ อ.เมือง จ.ยะลา

            โดยปัจจุบัน (16 ก.พ.68) เขื่อนปัตตานีมีปริมาณน้ำเก็บกักรวมทั้งสิ้น 5.50 ล้าน ลบ.  หรือคิดเป็นร้อยละ 70 ของความจุอ่างฯ  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขื่อนปัตตานีได้ทำหน้าที่บริหารจัดการน้ำอย่างเต็มศักยภาพ  แต่เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลาดชัน เมื่อเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องจึงส่งผลให้เกิดอุทกภัยในพื้นที่ ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนในช่วงน้ำท่วม และปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้น กรมชลประทาน โดยสำนักงานชลประทานที่ 17  จึงได้วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ ด้วยการเสริมสัน spillway ให้สามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้ 1 แสน ลบ.ม. พร้อมขุดลอกตะกอนดิน  เพื่อเพิ่มความจุให้ได้รวม 8.5 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันได้เริ่มดำเนินการแล้วบางส่วน

             นอกจากนี้ ยังมีแผนงานด้านการบรรเทาอุทกภัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยขยายคลองระบายน้ำ ขยายคลองส่งน้ำ ก่อสร้างคันป้องกันน้ำท่วม และขุดลอกคลองระบายน้ำหลัก  เพื่อตัดยอดน้ำในช่วงฤดูน้ำหลากระบายลงสู่อ่าวไทย  ช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ตัวเมือง  ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จทั้งหมด จะช่วยลดปัญหาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานีและพื้นที่บางส่วนของจังหวัดยะลา  ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างมาก

           สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำของกรมชลประทานที่ทำการก่อสร้างจนถึงปัจจุบันในจังหวัดยะลา มีจำนวน 286 โครงการ พื้นที่รับประโยชน์ทั้งหมด 190,431 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่จำนวน 8 อำเภอ



เนื้อหาข่าว: กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาที่ดิน
รูปภาพ: กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 12 กรมพัฒนาที่ดิน

กลับหน้าหลัก
facebook
Youtube
Tiktok
Instragram